FitFoodFun

 "ป้าแอนทำอันนี้เป็นมั้ยครับ" คือข้อความที่หลานชายส่งมา พร้อมกับแนบรูปบันทึกหน้าจอที่เขาคุยกับแฟนส่งมาด้วย ซึ่งในรูปคือเค้กกล้วยหอมครีมชีส ตกแต่งด้านบนด้วย อัลมอนด์สไลด์และช็อคโกแลตชิพ หนุ่มสาวเขาคุยกัน จะถึงวันเกิดแล้ว อยากกินเค้กแบบนี้  เมื่อหลานชายมีแฟน ก็เท่ากับว่าป้าอย่างเรามีหลานสาวเพิ่มขึ้นมา 1 คน มีเหรอที่ป้าคนนี้จะปฏิเสธ อยากกินก็ทำให้   เด็ก ๆ เขาจะกลับมาบ้านกันเย็นวันศุกร์ จริง ๆ เขาก็ไม่เด็กกันแล้ว แต่ในสายตาผู้เขียน หลานก็คือหลาน ยังคงเป็นหลานตัวน้อย ๆ ที่คอยอ้อนให้ทำนู่น ทำนี่ให้เวลาอยากกิน หลานชายเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ ได้กลับบ้านแค่อาทิตย์ละครั้ง ส่วนหลานสาวทำงานอยู่ที่ศรีราชา ทุกเย็นวันศุกร์ ทั้งคู่ก็จะนัดเวลาเดินทางกัน ใครถึงก่อนรอ เพื่อที่จะนั่งรถเข้ามาบ้านป้าพร้อมกัน ความน่ารักของคนวัยหนุ่มสาว  รูปจาก pixabay.com วันพฤหัสบดีตอนเช้าออกไปทำธุระเลยแวะซื้อวัตถุดิบที่จะทำเค้กมาให้เด็ก ๆ ด้วยเลย จริง ๆ ไม่ได้ซื้ออะไรมากหรอก วัตถุดิบส่วนใหญ่มีติดบ้านอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแป้ง น้ำตาล ไข่ แต่สิ่งที่ไม่มีคือกล้วยหอม ซึ่งต้องออกไปเลือกซื้อเอง เค้กกล้วยหอมจะอร่อยหรือไ

มือใหม่หัดวิ่งมาแล้วค่ะ มาเริ่มวิ่งจริงจังก็ปีนี้ ในวัย 46 ความรู้เรื่องวิ่งเป็นศูนย์เลย แต่ด้วยว่าออกกำลังกายมาตลอด 12 ปี พออแกไปวิ่งก็เลยวิ่งได้โดยที่ไม่ยากมาก พอวิ่งได้ก็เริ่มสนุก เพราะได้ทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยทำ ซึ่งตั้งใจไว้แล้วแหละว่า จะหาอะไรใหม่ ๆ ทำทุกปี เพื่อให้ชีวิตไม่น่าเบื่อ พอเริ่มจริงจังกับเรื่องวิ่ง สิ่งแรกที่ต้องทำต้องหาคือรองเท้าวิ่งดี ๆ สักคู่ ซึ่งความรู้เรื่องนี้ก็เป็นศูนย์อีกเช่นกัน  แต่โชคดีที่มีน้อง ๆ คอยแนะนำ จริง ๆ น้องก็แนะนำมาหลายแบรนด์ บางแบรนด์ก็ราคาสูงปรี๊ดเลย ซึ่งคงไม่เหมาะกับมือใหม่หัดวิ่งอย่างเรา เลยออกไปดูตามห้าง แล้วไปทดลองใส่ ปัญหาของเราคือเท้าเล็กมาก หารองเท้าใส่ยาก ไปมาหลาย Shop ลองมาหลายแบรนด์มาก จนได้มาเจอกับคู่นี้ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยก่อนเข้าวงการวิ่ง แต่น้อง ๆ บอกว่าให้ลองดู เขามีหลายรุ่น หลายราคา  วันที่ไปลอง มีไซส์ที่ใส่ได้พอดี ใส่แล้วสบายมาก มีความรู้สึกเหมือนเจอเนื้อคู่ยังไงอย่างนั้นเลย ประจวบเหมาะกับเขากำลังลดราคาด้วย เนื้อคู่แหละ Saucony Endorphin Speed 3 คู่นี้ได้มาในราคา 2390 บาทเท่านั้น และใส่มาหลายเดือนแล้ว เป็นรอ

 เช้าวันอาทิตย์  ซึ่งเป็นวันหยุดของคนส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่ผู้เขียน เพราะโทรศัพท์สายแรกดังขึ้นตั้งแต่แปดโมงเช้ากันเลย มองหน้าจอเห็นชื่อก็เตรียมปากกากับกระดาษก่อนจะกดรับ เพราะรู้ว่าลูกค้าคนนี้จะชวนคุยเล่นสักพัก แล้วก็สั่งอาหาร ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปกติของทุกเดือน แกจะโทรมาสั่งอาหารและชวนคุยเรื่อยเปื่อย บางครั้งก็ขอให้ทำอาหารนอกเมนูให้ และวันนี้ก็เช่นกัน แกฝากซื้อของ 2 - 3 อย่าง และขอให้ทำคุกกี้ให้หน่อย แกบอกว่าอยากกิน แถวบ้านแกไม่มีคุกกี้ที่แกชอบเลย ลูกค้าคนนี้เป็นชาวอเมริกัน ที่ย้ายถิ่นฐานมาใช้ชีวิตวัยเกษียณ ที่บ้านเกิดของภรรยา ที่จังหวัดศรีสะเกษ  ไหน ๆ ก็ต้องทำคุกกี้ให้ลูกค้าแล้ว ก็เลยตั้งกล้องถ่ายคลิปวิดีโอลงในช่อง YouTube ด้วยเสียเลย จะได้เป็นไอเดียให้เพื่อน ๆ ในช่วงปีใหม่นี้ด้วย เผื่อยังคิดไม่ออกว่าจะทำขนมอะไรแจกจ่ายดี ก็ลองทำคุกกี้สูตรนี้ได้ค่ะ ทำง่าย ที่สำคัญเลยคืออร่อย  เนยที่ใช้ในคุกกี้สูตรนี้ เป็นเนยสดชนิดเค็มนะคะ ก็เลยไม่ได้ใส่เกลือเพิ่ม ถ้าเพื่อน ๆ ใช้เนยจืด ก็เติมเกลือลงไปในส่วนผสมด้วย 1 ช้อนชา  ส่วนผสม เนยเค็มนิ่ม 170 กรัม น้ำตาลทรายแดง 200 กรัม น้ำตาลทรายขาว 150 กรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง

ใครใช้คครีมกำจัดขนแล้วไม่ชอบกลิ่นของมันมารมกันกันตรงนี้ เพราะผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในนั้น ชอบใช้ครีมกำจัดขนมากเพราะมันง่ายสะดวกแล้วก็ไม่คันไม่แสบ แต่ไม่เคยชอบกลิ่นของมันเลย จะใช้มากี่ปีก็ยังไม่ชิน แล้วก็สรรหาเปลี่ยนยี่ห้อไปเรื่อย ๆ ทุกยี่ห้อที่เคยใช้กลิ่นแรงหมดเลย เรื่องประสิทธิภาพคือดีนะคะแต่ฉุนหนักมาก  จนล่าสุดได้เจอกับครีมกำจัดขน OLLie  คือจริง ๆ เป็นการเจอโดยบังเอิญ ขอนั่งไถ TikTok เล่น แล้วเจอพอดี รีวิวของเขาคือเยอะมาก ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าดี ก็เลยสั่งมาทดลอง 1 ชุด ซึ่งประกอบไปด้วยครีมกำจัดขน 1 หลอด และเซรั่มบำรุงหลังจากกำจัดขนอีก 1 หลอด ตัวครีมกำจัดขนเนื้อเป็นสีขาว บีบออกมาตื้นเต้น กลิ่นอ่อนมาก ส่วนตัวเซรั่มคือดี เป็นเนื้อลลักษณะคล้ายเจลใส ๆ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ทาแล้วรู้สึกสบายมาก  วิธีใช้ก็เหมือนกับครีมกำจัดขนทั่วไป คือป้ายทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีแล้วค่อยขูดออกด้วยพลาสติกที่เขาให้มา อีกอย่างนึงที่ชอบมาก ตัวพลาสสิคสำหรับขูดขน ที่มาในชุด มันไม่คม ไม่เหมือนบางยี่ห้อที่เคยใช้ ขูดแล้วจะรู้สึกว่ามันคมบาดเรา แต่ของยี่ห้อนี้คือเลิศเลยแหละ ขุดแล้วมันสบายไม่บาดผิว  ใช้จนหมดหลอดแรกแล้วเลยมาเ

  ถ้าให้เลือกกินอาหาร 1 ประเภทตลอดชีวิต ก็จะเลือกอาหารประเภทผัดนี่แหละ เพราะชอบมากกินได้ทุกวันไม่มีเบื่อ เราแค่สลับผักสลับเนื้อสัตว์ไปเรื่อย ๆ อย่างวันนี้ก็เหมือนกันคิดอะไรไม่ออก เปิดตู้เย็นดูว่ามีอะไรบ้าง เจออกไก่ทอดเหลืออยู่ 2 ชิ้น ต้นหอมเหลืออยู่ 2-3 ต้น พริกหวานติดนิดหน่อย แค่นี้ก็ได้มื้อเที่ยงแล้ว  หั่นทุกอย่างใส่จานเตรียมไว้ เครื่องปรุงที่ใช้วันนี้มีน้ำมันรำข้าว ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว low sodium น้ำเชื่อมหล่อฮั้งก๊วย ตัวนี้ใช้แทนน้ำตาลไปเลย ใส่แค่นิดหน่อย จากนั้นก็ตำพริกที่แช่แข็งไว้กับกระเทียม ได้พริกมาจากบ้านแม่ที่ใต้ ตั้งแต่ตอนที่น้องสาวขึ้นมารอบก่อน เป็นพริกขี้หนูเม็ดเล็ก ๆ ปลูกแบบบ้าน ๆ รสชาติเผ็ดมาก  เตรียมทุกอย่างเสร็จ ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ผัดพริกกระเทียมตำจนหอม แล้วใส่ไก่กับพริกหวานลงไป ปรุงรสตามชอบ ใส่ต้นหอมแล้วยกลง  ระหว่างที่ผัด ก็เอาข้าวกล้อง 7 สายพันธุ์ที่หู่เก็บแช่แข็งไว้ ออกมาอุ่นในไมโครเวฟ ผัดกับข้าวเสร็จข้าวก็ร้อนพอดี  ชอบกินกับข้าวฝีมือตัวเองมาก ไม่ได้เป็นคนทำอาหารเก่งมากมายอะไรหรอกนะ แต่การทำอาหารกินเองมันควบคุมได้ทุกอย่าง ทั้งปริมาณ รสชาติ และวัตถุดิบที่ใช้ ยิ่งช

ขึ้นชื่อว่าข้าวกล้องทุกคนก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า เป็นข้าวที่ดีต่อสุขภาพ คนที่ดูแลสุขภาพส่วนใหญ่ก็เลยมักจะหันมากินข้าวกล้องกันมากขึ้น แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่รู้สึกว่า ข้าวกล้องนั้นกินยากกว่าข้าวขาว บางคนก็ว่ามันไม่อร่อย มันฝืดคอ มันแข็ง บางคนก็ว่ามันหุงยาก ต้องใช้เวลานาน และอีกหลาย ๆ เหตุผล  วันนี้ผู้เขียนเลยอยากมาแนะนำข้าวกล้องที่กินเป็นประจำ ซึ่งกินง่ายมาก หอม นุ่ม อร่อย หุงก็ไม่ยาก ให้ใครชิม ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ากินง่าย ราคาก็ไม่แพงด้วย ที่สำคัญมีข้าวทั้งหมด 7 สายพันธุ์ด้วยกัน  ข้าวกล้องที่ผู้เขียนกำลังพูดถึงคือข้าวกล้อง 7 สายพันธุ์ของสยามนิยมนั่นเอง  ข้าวกล้อง 7 สายพันธุ์ สยามนิยมประกอบไปด้วย ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ ข้าวกล้องหอมมะลิ ข้าวกล้องแดงมันปู ข้าวกล้องสินเหล็ก ข้าวกล้องทับทิมชุมแพ ข้าวกล้องสันป่าตอง ข้าวขาว กข. 43 ซึ่งเขาผสมมาให้ในสัดส่วนที่ลงตัวมาก หุงออกมาแล้วข้าวนุ่ม กินง่าย ไม่ต่างกับการกินข้าวขาวเลย  ผู้เขียนชอบหุงครัังละเยอะ ๆ แล้วแบ่งใส่ถุงสำหรับการกิน 1 มื้อเก็บแช่แข็งไว้ พอจะกินก็แค่นำไปอุ่นในไมโครเวฟแป๊บเดียวก็ได้กิน การเก็บและอุ่นแบบนี้ ข้าวจะออกมานุ่มเหมือนหุงใ

  ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา เริ่มจริงจังกับการวิ่งมากขึ้น เริ่มซ้อมเป็นเรื่องเป็นราว เริ่มมีการตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง และตั้งใจจะไปวิ่งฮาล์ฟมาราธอนปีหน้า เลยตัดสินใจลงสมัครงานจอมบึงเอาไว้ พอสมัครแล้วก็ต้องซ้อมกับซ้อมเท่านั้น เพราะเป็นงานวิ่งงานแรกของชีวิตเลย แล้วดันลงระยะที่ท้าทายตัวเองมาก แต่ก็นั่นแหละ หาอะไรใหม่ ๆ ให้ชีวิตบ้างจะได้ไม่จำเจ  น้องเต่าที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน สถานที่ซ้อมวิ่งในวันปกติคือสวนสาธารณะใกล้บ้าน ซึ่งใช้เวลาเดินจากบ้านประมาณ 15 นาที ที่วันไหนที่รีบหรือขี้เกียจเดินก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปแค่ 5 นาทีก็ถึง วิ่งที่เดิมบ่อย ๆ เข้าก็มีเบื่อบ้าง อยากไปหาบรรยากาศใหม่ ๆ  เลยชวนเพื่อนรุ่นน้องไปวิ่งกันที่สวนหลวง ร.9 ซึ่งไม่ไกลจากบ้านมากนักเดินทางสะดวกโดยรถไฟฟ้าสายสีเหลือง  หลังจากไปวิ่งกับรุ่นน้องครั้งนึง ก็รู้สึกชอบ เลยตัดสินลองไปวิ่งคนเดียวในวันธรรมดาดู  ตอนที่ไปวิ่งกับรุ่นน้องเป็นวันเสาร์ซึ่งคนวิ่งกันค่อนข้างเยอะ พอลองไปวิ่งธรรมดา บรรยากาศก็ต่างออกไป คนน้อยลงเยอะมาก  วิ่งเสร็จถ่ายรูปเล่นซะหน่อย  พอไปวิ่งคนเดียวไม่ต้องนัดเจอรุ่นน้องที่สถานีรถไฟฟ้า ก็เลยตัดสินใจเรียกรถแท็กซี่